เมนู

แล้วในสูตรแรกนั่นแหละ ด้วยคาถาแม้นี้ พระองค์ตรัสทั้งวัฏฏะและวิวัฏฏะ
ดังพรรณนามาฉะนี้.
จบอรรถกถาคัพภินีสูตรที่ 6

7. เอกปุตตสูตร



ว่าด้วยการขุดอามิสแห่งมัจจุราช



[58] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้ :-
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวัน อาราม
ของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล บุตรคน
เดียวของอุบาสกคนหนึ่ง เป็นที่รัก เป็นที่พอใจ ทำกาละแล้ว ครั้งนั้นแล
อุบาสกมากด้วยกันมีผ้าชุ่ม มีผมเปียก เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคเจ้าถึงที่
ประทับในเวลาเที่ยง ถวายบังคมแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง พระผู้มี-
พระภาคเจ้าได้ตรัสถามอุบาสกเหล่านั้นว่า ดูก่อนอุบาสกทั้งหลาย ท่าน
ทั้งหลายมีผ้าชุ่ม มีผมเปียก เข้ามาในที่นี้ ในเวลาเที่ยง เพราะเหตุไรหนอ
เมื่อพระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสถามอย่างนี้แล้ว อุบาสกนั้นได้กราบทูลว่า ข้าแต่
พระผู้มีพระภาคเจ้า บุตรคนเดียวของข้าพระองค์ ผู้เป็นที่รักเป็นที่พอใจ
ทำกาละแล้ว เพราะเหตุนั้น ข้าพระองค์ทั้งหลายจึงมีผ้าชุ่ม มีผมเปียก
เข้ามาในที่นี้ในเวลาเที่ยง.
ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว จึงทรง
เปล่งอุทานนี้ในเวลานั้นว่า
หมู่เทวดาและหมู่มนุษย์เป็นจำนวนมาก ยินดี
แล้วด้วยความเพลิดเพลินชินในรูปอันเป็นที่รัก ถึงความ